จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

ตอนที่ 4 Hohner Poker Work

มานับย้อนหลังดู ได้เห็นเรื่องจริงอันน่าตระหนก (แต่คนอื่นคงจะขำ) นั่นคือ ผมอัพ blog ปีละ 1 ครั้ง !
ถ้าไม่มี comment เข้ามา ผมคงจะลืมไปแล้วว่าผมเขียน blog เรื่องแอคคอเดียนอยู่นะ
วันเวลาเคลื่อนไป ชีวิตก็หมุนเวียนไป แต่เสียงแอคคอเดียนยังคงดังอยู่ในใจ
เลยต้องกลับมา up blog กันต่อไป 

ครับ จากตอนที่แล้ว ผมเล่าเรื่องแอคคอเดียนสารพัดประเภทที่ผมได้ศึกษาจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ก็มาถึงจุดเปลี่ยนในการเล่นแอคคอเดียนของผมอีกครั้ง
หลังจากที่ผมได้หัดเล่นแอคคอเดียนจากเจ้า 80 เบสมาได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งก็เล่นเพลงทั้งฝรั่งและไทยได้ประมาณหนึ่ง เช่น La Valse D Amilie,Katyusha,Korobushka ฯลฯ ผมพยายามหัดเพลงหลากหลายประเภท เท่าที่ความรู้และความสนใจไปถึง แต่แล้วก็สังเกตตัวเองว่า ชอบเล่นเพลงพวก tradition ของยุโรปมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่เป็นเพลงสั้นๆ ง่ายๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงเต้นรำที่เรียกกันว่า Balfolk และเครื่องดนตรีที่ไปกันกับดนตรีแนวนี้ได้ จะไม่ใช่เปียโนแอคคอเดียน แต่เป็น diatonic accordion

ผมและเราๆ ท่านๆ ที่สนใจแอคคอเดียน(ซึ่งมีจำนวนอยู่เพียงน้อยนิดในประเทศไทย)ย่อมทราบว่า เปียโนแอคคอเดียนนี่ก็ว่าหายากแล้ว เพราะไม่ใช่เครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยม ยิ่งเป็นเครื่องดนตรีเฉพาะทางอย่าง diatonic accordion (ซึ่งต่อไปจะขอเรียกสั้นๆ ว่า diato) ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ ครั้งจะซื้อของใหม่ ราคาค่าตัวมันก็ไม่ใช่ถูกๆ แม้ diato จีนจะราคาแค่ไม่กี่พัน แต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง ส่วนของฝรั่งอย่างถูกสุดคือ Hohner Phanther ตอนนั้นก็เกือบสองหมื่น ยังไม่ต้องกล่าวถึง “มาตรฐานแบบยุโรป” แบรนด์ Castagnari หรือ Saltarelle ซึ่งราคาอยู่แถว 2 สองพันเหรียญสหรัฐฯ (เท่านั้น!)

เท่าที่ผมทราบ ในยุคสมัยหนึ่ง คาดว่าน่าจะราวๆ ยุค 2510-2520 ประเทศไทยมีการนำเข้าเจ้า diato อยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งแบบแถวเดียวและแบบสองแถว รวมทั้งแบบที่เรียกว่า Cajun  ซึ่งนานๆ ทีเราจะเห็นมันโผล่มาในร้านขายของเก่าหรือพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของนักสะสม มีทั้งแบบสภาพเป็นซากตั้งโชว์ได้อย่างเดียว หรือสภาพดี เล่นได้ แต่ฟังราคาแล้วสะดุ้งไปแปดตลบ
แม้มันจะเป็นแอคคอเดียนเหมือนกับเปียโนแอคคอเดียน แต่เจ้า diato มันก็ไม่ใช่เครื่องดนตรีประเภท universal ที่เล่นเพลงอะไรก็ได้ เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเล่นเพลงของมัน

งานอดิเรกประการหนึ่งของผมในเวลาต่อมา คือผมพยายามเสาะหาเจ้า diato ไม่ว่าจะแบบแถวเดียวหรือสองแถวอยู่เนืองๆ ส่วนใหญ่ติดต่อไป เขาก็จะบอกว่า ขายไปแล้ว ผมเองก็ยังไม่ละความพยายาม ว่างเมื่อไรก็จะค้นหาด้วยครู google ทุกทีไป
หลังจากหาอยู่นานกว่าปี เช้าวันหนึ่งโชคก็เข้าข้างผม เพราะพอค้นหาในกูเกิ้ล เจ้า Hohner Pokerwork ก็มาโผล่หน้าทันที แถมเป็นแบบ 2 แถวเสียด้วย ! ที่สำคัญ ราคาไม่แพงมาก
ผมกดโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ประกาศ ผู้ชายเสียงนิ่มๆ รับและบอกว่า ของยังอยู่ ถ้าสนใจแวะมาดูได้ตอนเย็น

วันนั้นหลังเลิกงาน ผมตรงดิ่งไปที่บ้านของเขา ไปถึงก็พลบค่ำแล้ว
ทักทายกันนิดหน่อย พี่เขาก็เดินไปหยิบเจ้า diato มาให้ผมลอง
“ผมซื้อไว้นานเป็นสิบปีแล้ว ก่อนมาถึงผมมันก็เก่าอยู่แล้วล่ะ ผมก็เอามาหยิบๆ จับๆ เล่นบ้าง เล่นไม่เป็นหรอก แต่ผมชอบเสียงของมัน” พี่ผู้ชายผู้เป็นเจ้าของเล่าให้ผมฟัง
“ผมรักมันนะ มันอยู่กับผมมานาน แต่ก็...คิดว่าขายดีกว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น คุณจะเอาไปเล่นใช่มั้ย?”
ผมตอบไปว่า ใช่ครับ ผมตามหามันมานานแล้ว ผมเล่นแอคคอเดียนอยู่ และอยากได้มันมาก มันใช้เล่นเพลงเฉพาะอย่าง ไม่ใช่เพลงทั่วไป เขาฟังแล้วก็พยักหน้ารับยิ้มๆ
“ผมก็ว่างั้น เพราะจะเอามันไปเล่นเพลงอะไรก็ยาก มันคงต้องเล่นเพลงของมัน อย่างที่คุณว่านั่นแหละ”
ผมสำรวจดูอย่างละเอียดและพบว่ามันเป็นคีย์ GC ซึ่งเป็นคีย์มาตรฐานสำหรับการเล่น diato ลองชักเข้าชักออก เสียงยังดัง ปุ่มกดโอเคทุกปุ่ม มีร่องผุระหว่างปุ่มหนึ่งร่อง กระเพาะ(bellow)รั่วบางจุด แต่โดยรวมแล้วถือว่าสภาพยังดี
ใครเคยเล่นเปียนโนแอคเดียนแล้วมาจับเจ้า diato รับรองได้ว่า จะรู้สึกเหมือนแบกข้าวสาร แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนมาถือหมอน คือมันเบามาก เบาพอๆ กับหรืออาจจะเบากว่ากีตาร์หนึ่งตัว
 “มีคนโทรมาก่อนคุณ เขาเปิดร้านอาหารอยู่ อยากได้มันไว้ประดับร้าน แต่ผมว่า มันเป็นเครื่องดนตรี ควรอยู่กับคนเล่นดนตรี ไม่น่าไปตั้งอยู่เฉยๆ ผมเองก็เล่นซอด้วง อยากให้มันไปอยู่กับคนที่รักมันมากกว่า ดีแล้วล่ะที่คุณได้มันไป”
ผมคุยกับเขาอีกชั่วครู่ ชำระค่าตัวเจ้า diato ให้แก่เขา ขอสิทธิ์เป็นผู้ดูแลมันต่อ ก่อนจะขอตัวกลับบ้าน ด้วยหัวใจที่พองโต ก็แหม่ ! อยากได้มานาน จู่ๆ ได้เป็นเจ้าของก็ต้องยินดีปรีดาเป็นธรรมดา
ค่ำวันนั้น ผมรู้สึกว่า การที่เราจะได้เจอกับเครื่องดนตรีที่เราปรารถนามันก็คล้ายจะเป็น “ชะตาลิขิต” อยู่เหมือนกันนะ

ภารกิจต่อมาของผมคือต้องเอามันไปซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพที่เล่นได้ ผมโทรติดต่อช่างที่เคยใช้บริการ ปรากฏว่าไม่มีใครรับสาย ผมคิดอยู่ชั่วครู่ก็ตัดสินใจโทรหาช่างอีกท่านหนึ่ง ซึ่งคนเล่นแอคคอเดียนคงจะรู้จักกันดี
“ก็มีกระเพาะรั่ว 2-3 จุดครับ บางปุ่มฝืดมากกดแล้วจมเลย  แป้นกดก็ผุเป็นรูโหว่ ช่างพอจะซ่อมได้มั้ยครับ?”
“ได้ครับ ยกมาได้เลย”
ช่างบอกซ่อมได้ ผมก็ยกไปเลยล่ะครับ บ้านช่างอยู่ในซอยเล็กๆ แถวเสาชิงช้า มีแอคคอเดียนกับกีตาร์วางรอให้ซ่อมอยู่หลายสิบตัว
“อ้อ-แบบสองเสียงนี่ ไม่ได้เห็นมานานเลย” ช่างทักทายเจ้า diato เหมือนเพื่อนเก่า “ต้องปะกระเพาะ ทำแป้นใหม่ ติดมุ้ง(ผ้ากันฝุ่นตะแกรงหน้า) ทำสีตะแกรงหน้า ติดสายหนังคล้องนิ้วโป้ง คงต้องสักสองสัปดาห์นะครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง แต่จะค่อยๆ ทำให้”
ผมพยักหน้ารับทราบรายการซ่อมแซมยาวเหยียดที่ช่างจะต้องทำ ไม่มีปัญหาครับ รอได้อยู่แล้ว
ช่างถามผมว่า ไปได้มาจากที่ไหนอย่างไร เพราะสภาพค่อนข้างดีอย่างนี้หายาก ส่วนใหญ่จะเป็นซากหมดแล้ว ผมก็อธิบายช่างไปว่า ผมหาจากอินเตอร์เน็ต แล้วก็เรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแอคคอเดียนจากอินเตอร์เน็ต รู้สึกว่าช่างจะสนใจเรื่องการใช้อินเตอร์เน็ตอยู่เหมือนกัน ผมจึงแนะนำเรื่องการใช้ google กับ youtube ไป

สองสัปดาห์หลังจากนั้น ผมกลับไปหาช่างอีกครั้ง เจ้า diato ของผม เหมือนรถเก่าที่ถูกซ่อมแซมจนกลับมาใช้งานได้อีก แม้จะไม่ 100% ด้วยอายุอานามของมัน  แต่ก็นับว่าเยี่ยมยอดแล้ว
“มีลูกค้ามาขอซื้อด้วยนะ แต่ผมบอกไปว่า ไม่ได้หรอก นี่ของลูกค้าคนอื่นเขาเอามาซ่อม”ช่างบอกกับผม
(แสดงว่าเจ้า diato ตัวนี้มีเสน่ห์ไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย )
จ่ายเงินค่าซ่อมแล้ว ผมก็หอบหิ้วมันกลับที่พัก แล้วก็หัดเล่นทันที
วันแรกที่หัดเล่น ผมพบว่า แม้ diato จะมีน้ำหนักเบา ดึงออกและดันเข้าง่ายกว่าเปียนโนแอคคอเดียน แต่ด้วยความที่เสียงเข้าและออกของมันไม่เหมือนกัน  รวมทั้งช่วงยาวของกระเพาะก็เป็นข้อจำกัด ไม่สามารถลากเสียงยาวเฟื้อยได้ มันจึง “ขัดๆ” กับความคุ้นชินเดิมอยู่ไม่น้อย กว่าจะหัดเพลงแรกได้ก็เล่นเอาเหงื่อตก นอกจากนี้ ความเก่าของมัน ก็ยังทำให้มีสนิมเกาะกรังอยู่ที่สปริงกลไกปุ่มกด ทำให้บางปุ่มกดลงไปแล้วไม่เด้งกลับ ผมต้องไปซื้อน้ำยาฉีดล้างสนิมมาช่วยจัดการ จึงแก้ปัญหาไปได้
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่แก้ไม่ตก คือเนื่องจากมันเก่ามากแล้ว “แผ่นผ้ากำมะหยี่ ที่รองปุ่มกด” ก็เปื่อยไปหมด ทำให้เวลาเล่น มันจะมีเสียงแก๊กๆ ของปุ่มที่กระทบกับแป้น แต่ดูจากคลิปที่ฝรั่งเล่นก็เห็นว่ามีปัญหาเดียวกัน

ผมคิดขึ้นได้อีกอย่างว่า มันไม่มีกล่องหรือถุงใส่ ซึ่งมันคงจะลำบากหากต้องหอบหิ้วไปไหนๆ ผมจึงค้นหาร้านที่รับทำกระเป๋าใส่เครื่องดนตรี ก็ไปเจอเจ้าหนึ่ง ดูตัวอย่างฝีมือดีทีเดียว ราคาไม่แพงมาก ก็ดำเนินการเจรจา วัดไซส์แล้วก็โอนตังค์ไป หนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็ได้รับกระเป๋าใส่ diato แบบพอดี๊พอดีตัวมาเลย

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเล่น diato ได้ ผมเห่อมาก ฝึกซ้อมทุกวัน ช่วง 2-3 เดือนแรกผมหัดจนสามารถเล่นเพลงง่ายๆ ได้ประมาณ 20 เพลง แต่ต่อมาการงานชักเริ่มจะยุ่ง นานๆ จึงจะซ้อมเพลงใหม่สักที พยายามปรับเวลาให้ตัวเองซ้อมทุกวัน วันละ 15-20 นาทีก็ยังดี
Hohner Pokerwork เป็น diato ที่เสียงดัง ดังกว่าเปียโนแอคคอเดียนตัวแรกของผมเสียอีก ตอนเย็นๆ นั่งเล่นแถวบ้าน เสียงลอยไปไกลเป็นร้อยเมตร
ผมเคยเอาไปเล่นให้เพื่อนฟัง มันแปลกอยู่ตรงที่ตอนแรกๆ ทุกคนจะรู้สึกแปลกๆ เพราะมันเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่เคยรู้จัก แถมยังเป็นเพลงที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน แต่พอเล่นๆ ไป ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
 “ฟังแล้ว รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก” บางคนถึงกับถามว่า ราคาเท่าไร จะหาซื้อได้ที่ไหน อยากเล่นเป็นบ้าง
เป้าหมายของผมคืออยากเล่นได้ให้สัก 50 เพลง จากนั้นจะหาโอกาสไปเล่นเปิดหมวก


แค่นี้แหละครับ ที่อยากทำ


2 ความคิดเห็น:

  1. ไปฟั งได้ที่ไหนบ้าง

    ตอบลบ
  2. ผมยังไม่เคยได้ไปเปิดหมวกเป็นเรื่องเป็นราวสักที
    มีแต่อัพใส่ youtube ไว้

    https://www.youtube.com/watch?v=IMbIj7VwZJg

    ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ

    ตอบลบ